นัตสึ ดรากูนีล (Natsu Dragneel)
(อายุ ? ปี)จอมเวทดราก้อนสเลเยอร์อัคคี ฉายาซาลามานเดอร์(Salamander) ตอนเด็กเขาถูกเลี้ยงดูโดยมังกรอัคคี "อิกนีล" นัตสึมีเป้าหมายตามหาอิกนีลให้พบอีกครั้ง สามารถใช้เวทปราบมังกรอัคคีได้ เป็นเวทมนตร์ที่เน้นพลังทำลายรุนแรง มีนิสัยตรงไปตรงมา บ้าบิ่นแบบชวนฮา สามารถเรียนรู้สถานการณ์ในการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ถูกกันกับเกรย์มาตั้งแต่แรกเข้ากิลด์ เข้าใจคำพูดแบบหลักการไม่ค่อยเก่ง แต่มีจุดอ่อนคือ เมายานพาหนะทุกประเภทยกเว้นแฮปปี้(เพราะแฮปปี้ไม่ใช่ยานพาหนะ) รู้สึกว่านัตสึจะแคร์ความรู้สึกลูซี่เอามากๆทีเดียว ในอดีตเคยมี Puppylove คือ ลิซาน่า
ชื่อของนัตสึ แปลว่า ฤดูร้อน ซึ่งผู้แต่งตั้งชื่อตัวละครตัวนี้ตามฤดูกาล เช่นเดียวกับ ฮารุ (ฤดูใบไม้ผลิ)จากเรื่อง RAVE
อายุของนัตสึยังมีการสับสนอยู่ว่า อายุเกิน 80 ปี จริงหรือเปล่า ครั้งตอนศึก Battle of Fairy tail นัตซึไม่สามารถออกมาจากตึกกิลได้เหมือนกันกับกาซิล และมาสเตอร์ มาคาลอฟ เนื่องจากโดนวางอาคมไว้ว่า "ห้ามคนอายุเกิน 80 ปีออกมาจากเขตอาคม" (อ้างอิงจากอะนิเมะตอนที่ 42 และ 43)
เนื่องจากเป็นจอมเวทดราก้อนสเลเยอร์อัคคี นัตซึจึงสามารถกินไฟ เพื่อฟื้นฟูร่างกาย และเพิ่มพลังเวทในการต่อสู้ได้ แต่ไม่สามารถกินไฟที่สร้างขึ้นจากเวทของตนเองได้
นัตสึอยู่ในกลุ่ม "ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในแฟรี่เทล" โดยทุกๆคนในกิลด์ต่างก็เห็นด้วยแม้จะยังไม่ได้ตั้งชื่อทีมอย่างเป็นทางการก็ตาม (และก็ยังเป็นทีมที่ชวนปวดหัวที่สุดด้วยเช่นกัน เพราะทุกๆครั้งที่ทำภารกิจ มักจะมีข้าวของหรือบ้านเมืองได้รับลูกหลงตลอด โดยหัวหอกการอาละวาดก็คือ นัตสึ เกรย์และเอลซ่า ยกเว้นลูซี่กับแฮปปี้)
เวทมนตร์และท่าไม้ตายที่นัตสึใช้
(มังกรเพลิงคำราม) :
(หมัดเหล็กมังกรเพลิง) :
(มังกรเพลิงสยายปีก) :
(ประกายไฟมังกรเพลิง) :
(ศอกอัคคีมังกรเพลิง) :
(กรงเล็บมังกรเพลิง) :
(เขาดาบมังกรเพลิง) :
(เคียวมังกรเพลิง) :
(หมัดมังกรเพลิงแผดเผา) :
(ดาบเพลิงดอกบัวแดง) :
ลูซี่ ฮาร์ทฟิเลีย (Lucy Heartfilia)
(อายุ 17 ปี)สาวน้อยหน้าอกตูม ผู้ที่ออกเดินทางหวังจะได้เข้ากิลด์แฟรี่เทลที่โด่งดัง เธอได้รับการช่วยเหลือจากนัตสึ จนกระทั่งได้เป็นสมาชิกคนหนึ่งของแฟรี่เทล เธอเป็นจอมเวทอัญเชิญ สามารถอัญเชิญเทพแห่งดวงดาวได้ โดยการใช้กุญแจประตูแห่งดวงดาว แท้จริงแล้วลูซี่เป็นคนของตระกูลฮาร์ทฟิเลียผู้ร่ำรวยแห่งฟิโอเล แต่พ่อของเธอกลับไม่แยแสเธอเท่าไหร่ เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื่อตามหาฝันของตนเอง ซึ่งในเล่ม 16 ดูเหมือนว่าจะเคลียร์กับคุณพ่อได้แล้ว ลูซี่เป็นผู้หญิงที่เกรย์สนใจอยู่นิดๆ (อ้างอิงมาจาก ตอนที่ 58 การต่อสู้ระหว่างเทพแห่งดวงดาว) มีนิสัยใสซื่อไม่สมกับหน้าตา รักเหล่าเทพดวงดาวจากใจจริง ไม่เคยคิดว่าเทพดวงดาวเป็นเพียงเครื่องมือในการต่อสู้ ภายหลังลูซี่เริ่มแคร์ความรู้สึกของนัตสึมากขึ้น
ชื่อของลูซี่ มาจากเพลง Lucy in the Sky with Diamonds ของวง The Beatles แต่สำหรับในเนื้อเรื่อง ชื่อของลูซี่มาจากป้าย Love & Lucky ของกิลด์อคาลีฟ่าที่พ่อกับแม่ของลูซี่เคยทำงานอยู่และเป็นกิลด์ที่พ่อแม่ของลูซี่เจอกันครั้งแรก เผอิญคำว่า Lucky บนป้าย ตกตัว K ไป 1 ตัว จึงได้กลายมาเป็นชื่อของลูซี่
หลังจากเหตุการณ์เกาะเทนโรว ลูซี่ก็รู้ใจตัวเองอย่างถ่องแท้ ว่าตัวเขารักพ่อมากแค่ไหน เมื่อได้เห็นจดหมายกับของขวัญจากพ่อ
ลูซี่มักจะเป็นตัวเอกตบมุขในแต่ละซีนโดยหลัก เวลานัตสึ เกรย์ เอลซ่า หรือคนที่มาคุยด้วยแล้วมีท่าทีเพี้ยนๆ ให้เห็น หรือพูดอะไรแปลกๆให้ได้ยิน
ลูซี่อยู่ในกลุ่ม "ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในแฟรี่เทล" โดยทุกๆคนในกิลด์ต่างก็เห็นด้วยแม้จะยังไม่ได้ตั้งชื่อทีมเป็นทางการก็ตาม (และก็ยังเป็นทีมที่ชวนปวดหัวที่สุดด้วยเช่นกัน เพราะทุกๆครั้งที่ทำภารกิจ มักจะมีข้าวของหรือบ้านเมืองได้รับลูกหลงตลอด โดยหัวหอกการอาละวาดก็คือ นัตสึ เกรย์และเอลซ่า ยกเว้นลูซี่กับแฮปปี้)
อาวุธและอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ลูซี่ใช้
เวทมนตร์และท่าไม้ตายที่ลูซี่ใช้
แฮปปี้ (Happy)
(อายุ 6 ปี)แมวพูดได้ และมีพลังเวทที่สามารถบินได้ รวมทั้งยังเป็นคู่หูสนิทของนัตสึ ดูท่าทางหัวดีกว่านัทสึอีก โดยแฮปปี้เกิดออกมาจากไข่มังกรที่นัตสึเก็บมาได้ในวัยเด็ก และได้บรรดาคนในกิลด์ช่วยกันฟัก แฮปปี้เองก็ติดลูซี่อยู่มิใช่น้อย
เวทมนตร์และท่าไม้ตายที่แฮปปี้ใช้
พลู (Plue)
เป็นเทพดวงดาวลูกสุนัขรูปร่างประหลาดที่ลูซี่อัญเชิญมาบ่อยๆ และกลายเป็นสัตว์เลี้ยงประจำตัวเธอ มีรูปร่างเหมือนกับ พลู จาก RAVE
เกรย์ ฟูลบัสเตอร์(Gray Fullbuster)
(อายุ 18 ปี)จอมเวทน้ำแข็ง เขาสามารถหล่อหลอมน้ำแข็ง(Ice Make) เป็นรูปร่างได้ตั้งแต่อาวุธโจมตีคู่ต่อสู้จนถึงหล่อหลอมเป็นอุปกรณ์คุณประโยชน์ได้หลากหลาย เขาเป็นลูกศิษย์ของอุล มีนิสัยชอบแก้ผ้าแบบไม่รู้ตัว ค่อนข้างสุขุมกับทุกๆคนนอกจากนัตสึ เนื่องจากไม่ถูกกับนัตสึเอามากๆ ตั้งแต่แรกเจอกันตอนเด็ก ทะเลาะกันมากกว่าคุยกันดีๆซะอีก แต่ทั้งสองกลับร่วมภารกิจกันบ่อย สาเหตุที่แก้ผ้ามาจากอุล(อาจาร์ของเกร์ยและริออน)เวลาอุลสอนจะให้เกร์ยถอดเสื้อฝึกจึงติดเป็นนิสัยตลอด สนใจในตัวลูซี่เพราะเธอค่อนข้างตรงเสป็ก(การ์ตูนเล่ม 17 )
เวทมนตร์และท่าไม้ตายที่เกรย์ใช้
เอลซ่า สการ์เล็ต (Erza Scarlet)
(อายุ 19 ปี)จอมเวทสาว สวมชุดเกราะ หนึ่งในสี่จอมเวทระดับ S Class ฉายาไททาเนีย เอลซ่า(Titania) เธอขึ้นชื่อว่า เป็นนักสู้หญิงสุดแกร่งของแฟรี่เทล เธอสามารถเปลี่ยนชุดเกราะได้อย่างรวดเร็วในทุกๆเวลาที่ต้องการใช้ เป็นคนนิสัยจริงจัง เข้มงวด ไหวพริบสูง และมีความหลักแหลมมากในการวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ เวลาเธอโกรธนั้น น่ากลัวทีเดียว แต่ก็เป็นคนอ่อนไหวเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน หากเพื่อเพื่อนพ้องและทุกๆคนที่เขารักแล้ว ยอมตายยังได้ เอลซ่ายังเป็นคนคอยดูแล คอยห้ามปรามนัตสึกับเกรย์มาตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากทั้งคู่ชอบทะเลาะกันบ่อยๆ แต่เอลซ่าเองก็กลับไปทะเลาะกับมิร่าเจนบ่อยๆในสมัยเด็ก
ในอดีต เอลซ่าในวัยเด็ก เคยเป็นทาสรับใช้ให้ทำงานก่อสร้าง"หอคอยสวรรค์"และถูกทารุณกรรมจนเสียตาข้างขวาไป หลังจากการตายของลุงร็อบ เธอสามารถใช้เวทมนตร์ได้ ทว่ากลับถูก เจราล คนที่เธอพยายามช่วยนั้น หักหลัง เธอจึงหนีออกมาและเข้าร่วมกิลด์แฟรี่เทล ถึงแม้โพร์ลิวซิก้า ที่ปรึกษาด้านยาของแฟรี่เทลจะช่วยรักษาจนกลับมามองเห็นได้เหมือนเดิม แต่ก็มีอาการแปลกๆจากดวงตาข้างขวา ทำให้เวทที่โจมตีทางสายตา (อย่างเช่น สโตนอายส์ ของเอเวอร์กรีน) ไม่มีผลกับเธอและน้ำตาไม่ไหลออกมาจากตามข้างขวา
เอลซ่าอยู่ในกลุ่ม "ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในแฟรี่เทล" โดยทุกๆคนในกิลด์ต่างก็เห็นด้วยแม้จะยังไม่ได้ตั้งชื่อทีมเป็นทางการก็ตาม (และก็ยังเป็นทีมที่ชวนปวดหัวที่สุดด้วยเช่นกัน เพราะทุกๆครั้งที่ทำภารกิจ มักจะมีข้าวของหรือบ้านเมืองได้รับลูกหลงตลอด โดยหัวหอกการอาละวาดก็คือ นัตสึ เกรย์และเอลซ่า ยกเว้นลูซี่กับแฮปปี้)
เวทมนตร์และท่าไม้ตายที่เอลซ่าใช้
อาวุธและอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เอลซ่าใช้
ชุดเกราะเวทมนต์ :
อาวุธเวทมนต์:
มาวิส เวอมิเลี่ยน (Marvis Vermillion)
เป็นผู้ก่อตั้งกิลด์แฟรี่เทล และเป็นมาสเตอร์รุ่นแรกด้วย เพศหญิง รูปร่างเล็ฺก ผมบรอนรอนยาวถึงเท้า มีปีกติดที่ข้างๆหู ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว แต่ยังมีพลังเวท และพลังวิญญาณสถิติอยู่ที่สุสานบนเกาะเทนโรว เป็นผู้คิดค้นมหาเวททั้ง 3 แห่งกิลด์แฟรี่เทล "แฟรี่่ลอว์" "แฟรี่กริตเตอร์" และ "แฟรี่สเปียร์" ปรากฏตัวครั้งแรกตอนพวกนัตสึต่อสู้กับ "อัลโนโลเกีย มังกรทมิฬแห่งภัยภิบัติ" สุดท้ายได้ปกป้องเกาะและพวกนัตสึไว้ได้ด้วยมหาเวท แฟรี่สเปียร์ พร้อมทั้งใช้พลังเวทสร้างกายเวทขึ้นมาเพื่อสื่อสารกับคนในแฟรี่เทล ก่อนหายไป หลังจากนั้นได้เผยกายเวทให้เห็นอีกครั้งตอนเชียร์งานประลองเวทมนตร์

มาคาลอฟ เดรเยอร์ (Makarov Dreyar)
(อายุ 88 ปี)เป็นมาสเตอร์รุ่นที่ 3 ของกิลด์แฟรี่เทล และเป็นหนึ่งใน 10 จอมเวทศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นชายแก่สูงวัย ถึงจะรูปร่างเล็ก แต่ก็เป็นที่นับถือของคนในกิลด์ ร่างกายแข็งแรงและคล่องแคล่ว มีนิสัยใจเย็น ออกลามกนิดๆ ดูจะไม่แคร์พวกสภาจอมเวทซักเท่าไหร่(ทั้งๆที่ตัวเองเป็นสมาชิกคนหนึ่งในสภา) โดยหลักชอบใช้เวทยืดหยุ่นร่างกายตั้งแต่ยืดแขนขาลำตัว เร่งกล้ามเนื้อ ไปจนถึงขยายร่างให้เป็นยักษ์ได้ และสามารถใช้เวทไฟ น้ำแข็ง ลม ได้อีกเช่นกันและประเภทอื่นๆได้อีกมากมาย รวมทั้งมหาเวทพิพากษาสูงสุดในตำนานของแฟรี่เทล "แฟรี่ลอว์"
ในช่วงเหตุการณ์จบสงครามแฟนท่อมลอร์ดแล้ว มาสเตอร์มาคาลอฟเคยคิดจะเกษียณตัวเองแต่ติดปัญหาอยู่ตรงที่จอมเวทระดับ S ในกิลด์ยังไม่มีใครเหมาะสม -ลัคซัส ยังมีปัญหาในเรื่องความคิด ,-มิสกัน มีปัญหาในเรื่องการไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับใคร ,-เอลซ่ายังมีปัญหาในเรื่องอายุยังน้อยเกินไป(และชอบอาละวาดแบบไม่สนผลลัพธ์ที่ตามมา เวลาทำภารกิจเสร็จ) ,-มิร่าเจน ก็เป็นเลขาอยู่แล้ว ,-กิลดาร์ซ จึงเป็นคนเดียวที่เหมาะสม แต่ยังไม่กลับมาจากการทำภารกิจล่าสุด จึงยังตัดสินใจยกตำแหน่งมาสเตอร์ให้ใครไม่ได้
ปัจจุบัน มาคาลอฟเป็นมาสเตอร์ของกิลด์แฟรี่เทลรุ่นที่ 6 แล้ว เพราะช่วงที่มาคาลอฟหายตัวไปที่เกาะเทนริวนั้น มาคาโอได้เป็นมาสเตอร์ของกิลด์รุ่นที่ 4 เพื่อรักษาการ ต่อมาเมื่อกลับมาที่กิลด์ได้ มาคาลอฟจึงตัดสินใจที่จะยกตำแหน่งมาสเตอร์รุ่นที่ 5 ให้กับกิลดาร์ซอย่างเป็นทางการ แต่กิลดาร์ซกลับชิ่งออกไปทำภารกิจต่อโดยทิ้งจดหมายไว้ว่าตนสละสิทธิ์และขอยกตำแหน่งมาสเตอร์รุ่นที่ 6 มาคาลอฟต่อไป
 
มิร่าเจน สตราอุส (Mirajane Strauss)
(อายุ 19 ปี) สาวเสิร์ฟแสนสวยเซ็กซี่ ออกเปิ่นนิดๆ เป็นที่ชื่นชอบของหนุ่มๆในกิลด์ ถือเป็นนักร้องเสียงทองประจำกิลด์นี้ด้วย เป็นพี่สาวคนโตของเอลฟ์แมนและลิซานน่า เธอถนัดใช้เวทแปลงร่างคนได้ตั้งแต่เฉพาะส่วนจนถึงทั้งร่าง ปัจจุบันวางมือจากการทำภารกิจในฐานะจอมเวทของกิลด์แล้ว ได้มาดูแลกิลด์ในทุกๆเรื่อง เปรียบเสมือนเลขาของมาสเตอร์มาคาลอฟ
เอลฟ์แมน สตราอุส (Elfman Strauss)
หนึ่งในจอมเวทสุดแกร่งคนหนึ่งในแฟรี่เทล ได้รับฉายาว่า แขนสัตว์ประหลาด(Beast arm) เอลฟ์แมน มีความสามารถในการใช้เวท Take Over "Beast Soul" เรียกพลังสัตว์ประหลาดมาสิงร่างกายในส่วนที่ต้องการเพื่อใช้ต่อสู้ เขาเป็นน้องชายของมิร่าเจนและพี่ชายของลิซานน่า มองภายนอกเหมือนเป็นคนน่ากลัว แต่จริงๆเป็นคนที่มีจิตใจดีมาก มีคำพูดติดปากว่า"ลูกผู้ชาย" เอลฟ์แมนไม่ค่อยใช้เวท Take Over ทั้งตัว เพราะกลัวว่าจะควบคุมร่างกายตนเองไม่ได้ แต่สุดท้ายก็สามารถควบคุม Take Over แบบทั้งร่างได้ตอนสงครามแฟนท่อม ลอร์ด
ลิซานน่า สตราอุส (Lisanna Strauss)
หรือ ริซาน่า (อายุ 17 ปี)ตามฉบับภาษาไทย เป็นน้องสาวของมิร่าเจน และ เอลฟ์แมน ความสามารถคือการใช้เวท Take Over "Animal Soul" เป็นการแปลงร่างตนเองให้เป็นสัตว์ในแบบต่างๆ เป็นคนใจดี เข้าใจความรู้สึกคนรอบข้าง ปัจจุบันทุกคนคิดว่าเสียชีวิตแล้ว แต่หลังตอนที่พวกนัตสึไปเอโดราส เธอก็กลับมาที่เอิร์ธแลนด์และบอกว่าถูกอนิม่าที่เป็นเวทมนตร์หลุมดำ ดูดไปที่เอโดราส แอบชอบนัตสึและบอกว่าจะแต่งงานกับนัตสึด้วย
โลกิ (Loke)
จอมเวทหนุ่มเจ้าเสน่ห์ บ้าผู้หญิง มีแหวนเวทมนตร์เป็นอาวุธ ถนัดการต่อสู้มือเปล่า สนใจในตัวลูซี่เป็นพิเศษ แต่พอรู้ว่า ลูซี่เป็นผู้อัญเชิญเทพแห่งดวงดาว กลับไม่กล้าเข้าใกล้ซะงั้น ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือ เลโอ หนึ่งในเทพแห่งดวงดาว 12 นักษัตร ผู้ซึ่งไม่สามารถกลับไปยังโลกแห่งดวงดาวได้ เพราะเคยทำผิดกฏกับ คาเรน ผู้อัญเชิญเทพแห่งดวงดาวคนเก่า ต่อมาได้รับการอภัยโทษจากราชาเทพแห่งดวงดาว จึงกลายมาเป็นเทพผู้รับใช้ลูซี่อีกคน
มาคาโอ คอนวอลท์ (Macao Conbolt)
จอมเวทวัยกลางคน มีความสามารถในการใช้เวทปลอมตัว มีลูกชายอยู่คนหนึ่ง ชื่อ โรเมโอ เป็นผู้ใช้เพอร์เพิลแฟลย์ คือ เป็นไฟที่ลมและน้ำไม่สามารถดับได้ เป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับงานมากกว่าครอบครัว จึงได้แยกทางกับภรรยาไปเมื่อ 3 ปีก่อน ชอบอยู่กับพวกบลูเพกาซัส จึงเลื่องชื่อเรื่องผู้หญิงพอสมควร อีกทั้งยังเข้าขาได้ดีกับ บ็อบ มาสเตอร์ของบลูเพกาซัสอีกด้วย
ช่วงที่พวกนัตซึหายตัวไปที่เกาะเทนโรวตลอด 7 ปีนั้น มาคาโอได้ขึ้นเป็นมาสเตอร์รุ่นที่ 4 เพื่อรักษาการแทนที่มาคาลอฟที่หายตัวไป
มาคาโอเคยสอนนัตสึ ให้รู้จักการควบคุมไฟให้เป็นประโยชน์อย่างอื่น นอกจากใช้ทำลายด้วย เช่น ครั้งนัตสึต่อสู้กับเอริกอร์ (จอมเวทหัวหอกกิลด์แห่งความมืด
คาน่า อัลเบโรน่า (Kana Alberona) 
หรือ คาน่า อัลเวโรน่า ลูกสาวของกิลดาร์ซ เป็นจอมเวทย์สาวอารมณ์ร้อน ขี้เหล้าสุดๆ เพราะเริ่มดื่มเหล้าตั้งแต่อายุ 13 ปี ว่ากันว่า 30% ในเงินคลังของกิลด์ หมดไปกับค่าเหล้าของเธอเอง มีความสามารถในการใช้การ์ดเวทมนตร์ในการทำนายและใช้โจมตีได้ เป็นลูกสาวของกิลดาร์ซ ครั้งหนึ่งเธอเคยถูกมาคาโอเตือนเรื่องการดื่มเหล้าของตัวเธอเอง ทำให้คาน่าเริ่มสนใจในตัวมาคาโอเพราะเข้าใจว่าเป็นห่วงเธอ แต่พอมารู้ในภายหลังว่ามาคาโอมีแฟนใหม่อยู่แล้ว จึงกลับมาดื่มหนักกว่าเดิม
 
มิสโตกัน [มิสกัน] (Mystogun)
หนึ่งในสี่จอมเวทระดับ S Class ของกิลด์นี้ มีนิสัยเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร ไม่ชอบให้ใครรู้ว่าเขาตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ แม้แต่คนในกิลด์ด้วยกัน แต่ก็มีใจรักกิลด์ไม่แพ้คนอื่นๆ ครั้งสงครามแฟนธ่อมลอร์ด มิสกันก็ได้มาช่วยเหลืออย่างลับๆ โดยการไปไล่ถล่มสาขาย่อยของกิลด์แฟนธ่อมลอร์ดจนหมด เขามักปิดบังหน้าตาอยู่ใต้ผ้าคลุมตลอดเวลา ครั้งใดจะเข้ามาที่กิลด์เพื่อมารับงาน จะชอบใช้เวทนิทราเพื่อให้คนในกิลด์หลับให้หมดก่อนแล้วจึงมารายงานตัวรับงานกับมาสเตอร์มาคาลอฟ(เนื่องจากเวทนิทราไม่มีผลกับมาคาลอฟ) ในการต่อสู้กับลัคซัส ครั้งศึก Battle Of Fairy Tail เล่ม 15 เขาได้เผยโฉมหน้าออกมา โดยมีใบหน้าละม้ายคล้ายเจราล (เพราะเป็นเจราล เจ้าชายแห่งโลกเอโดราส) หลังจากจบศึก Battle Of Fairy Tail ไป มิสกันก็เริ่มเปลี่ยนวิธีการไปมาหาสู่ในกิลด์ สุดท้ายมิสกันได้ออกจากกิลด์ไปโดยปริยาย เนื่องจากหลังเสร็จศึกที่โลกเอโดราสต้องมาบูรณะปกครองเมืองต่อจากกษัตริย์ฟอลด์ พ่อของมิสกัน
มิสกัน มักจะพกพาไม้เท้าเวทมนตร์ไว้เยอะๆ และหลากรูปแบบ และเวทมนตร์มิสกันนั้นค่อนข้างจะเน้นไปทางผสมเวท เพื่อสร้างเวทมนตร์ประยุกต์ขึ้นมา
มิสกันเคยช่วยชีวิตเวนดี้ไว้ตอนสมัยเด็กๆ และได้พาเวนดี้ไปส่งไว้ที่กิลด์ เคทเชลเตอร์ และเป็นคนที่เวนดี้ชอบ
ลัคซัส เดรเยอร์ (Laxus Dreyar)
หนึ่งในสี่ จอมเวทระดับ S Class เป็นหลานชายของมาคาลอฟ และเป็นลูกชายของอีวาน มาสเตอร์กิลด์แห่งความมืด "เรเวนเทล" เขาใช้เวทสายฟ้าได้หลากรูปแบบ อยู่แฟรี่เทลมาตั้งแต่ยังเด็ก มีนิสัยพูดจาโอ้อวด เข้ากับใครก็ไม่ได้ มักยกตนข่มท่านว่าเขาเป็นจอมเวทที่แกร่งที่สุดในแฟรี่เทล และมองสมาชิกคนอื่นในกิลด์ด้วยสายตาเหยียดหยามเพราะเห็นว่าคนอื่นๆ อ่อนแอกว่าเขา ชอบสวมหูฟังเวทมนตร์ตลอดเวลา (ซึ่งแนวเพลงที่เขาชอบนั้นก็คือ คลาสสิคผสมร็อค) และมีบาดแผลลึกลับบนใบหน้าเขา (คาดว่ามาจากเรื่องในอดีต)
นิสัยของลัคซัสที่แท้จริงนั้น ไม่ต่างกันกับมาสเตอร์มาคาลอฟ "ความรู้สึกที่คิดถึงพวกพ้อง" แต่ลัคซัสไม่กล้าแสดงออกเนื่องจากไม่ชอบใจที่จะถูกมองว่า ตัวเขาเก่งเพราะหลานมาคาลอฟ ทำให้หลงผิดในการหาวิธีพิสูจน์ตนเองให้มาคาลอฟให้เห็น หลังจากแบตเทิ่ล ออฟ แฟรี่เทล เขาถูกมาคาลอฟขับไล่ออกจากกิลด์ ชนิดที่เขาได้จากกิลด์นี้ไปโดยที่หลงเหลือความสัมพันธ์อันดีกับกิลด์นี้ แต่ต่อมา ลัคซัสก็ได้กลับเข้ามาในกิลด์อีกครั้งหนึ่ง โดยคำขอของกิลดาร์ซที่เป็นมาสเตอร์รุ่นที่ 5 ก่อนที่จะลาออกไป
วัยเด็กลักซัสมีร่างกายอ่อนแอมาก อีวานจึงได้เอาผลึกอสูรมาฝังร่าง ทำให้เขามีความสามารถราวกับดราก้อนสเลเยอร์แห่งสายฟ้า (แต่ก็เป็นดราก้อนสเลเยอร์เทียม)

กิลดาร์ซ ไคลฟ์ (Gildarts Clive)
หนึ่งในสี่จอมเวทระดับ S Class วัย 45 ปี ผู้ใช้เวทมนตร์ ครัช มีความสามารถคือ เมื่อแตะสิ่งของอะไร สิ่งของที่แตะนั่นจะกลายเป็นก้อนเล็กๆแตกออกมา เขาเป็นจอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาจอมเวทระดับเดียวกัน จนมาสเตอร์มาคาลอฟยอมรับในความสามารถของเขาโดยยกให้เป็นหัวหอกของกิลด์แฟรี่เทล(Ace guild) แต่แอบนิสัยเจ้าชู้เงียบๆเล็กน้อยโดยที่ำไม่มีใครรู้ ไปทำภารกิจระดับss class มาแล้วแต่ก็ยังไม่สำเร็จ และยังเป็นจอมเวทที่นัตสึสนิทมาก เป็นพ่อของคาน่า เคยได้รับการสืบทอดตำแหน่งมาสเตอร์รุ่นที่ 5 ของกิลด์แฟรี่เทล ต่อจากมาคาลอฟที่คิดจะเกษียณไป แต่กลับชิ่งออกไปทำภารกิจต่อโดยทิ้งจดหมายไว้ว่าตนสละสิทธิ์และขอยกตำแหน่งมาสเตอร์รุ่นที่ 6 มาคาลอฟต่อไป แต่ในฐานะของมาสเตอร์รุ่นที่ 5 ก็จะขอให้ลัคซัสกลับเข้ามาในกิลด์แฟรี่เทล อีกครั้งหนึ่ง
เลวี่ แมคการ์เดน (Levy McGarden)
(บางฉบับแปลเป็น เรวี่)จอมเวทสาวคนหนึ่งในทีม"ชาโดว์ เกียร์" มีความสามารถในการโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยเวทคำพูดที่แปลงออกมาเป็นวัตถุ (Solid Script) ซึ่ง เลวี่,เจ็ต และ ดรอย เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ยังเด็ก เลวี่ยังเป็นคนเดียวในกิลด์ที่เชี่ยวชาญศาสตร์อักษรเวทมนตร์รวมทั้งอักษรเวทมนตร์โบราณ เคยช่วยแก้ปัญหาให้กับพวกนัตสึมาแล้ว 2 ครั้ง แอบชอบกาจิล
เจ็ต (Jet)
จอมเวทในทีมชาโดว์ เกียร์ เป็นผู้ใช้เวทไฮสปีด เร่งความเร็วของตัวเอง ทำให้เขาเป็นจอมเวทที่เร็วที่สุดในกิลด์ ชอบเลวี่(ในช่วง7ปีที่ผ่านไป เจ็ตเปลี่ยนไปแค่ทรงผมกับการแต่งกาย)
ดรอย (Droy)
จอมเวทในทีมชาโดว์ เกียร์ สามารถใช้เวทควบคุมพืชในการโจมตี เขาเก็บเม็ดพืชที่ Live Coal ซึ่งเขาสวมมันตลอดเวลา ชอบเลวี่ และไม่ชอบขี้หน้าเจ็ต (หลังช่วง7ปีที่ผ่านไป ดรอยกลายเป็นคนอ้วน)
รีดัส โจเนอร์
จอมเวทตัว บิ๊กร่างกลม มีความสามารถในการใช้เวท Picto Magic ซึ่งเป็นการวาดภาพนั้นๆให้กลายเป็นวัตถุที่จับต้องได้ ซึ่งต้องวาดภาพบนร่างกายเขาเท่านั้น (และมีเขาคนเดียวที่ใช้เวทนี้ได้)(ในช่วง7ปีที่ผ่านไป น้ำหนักของเขาลดลงมาก จนผอม)
นาฟ ลาซาโร่
เป็นจอมเวทที่แต่งตัวคล้ายอินเดียนแดง ผิวสีคล้ำ ผู้ใช้วิญญาณสัตว์ มาสิงในร่างตัวเอง ใช้ในการรบ (หลังช่วง7ปีที่ผ่านไป นาฟกลายเป็นคนอ้วนเหมือนกัน พร้อมหนวดเคราเต็มคาง)
อัลแซค คอร์เนล
เป็นจอมเวทหนุ่มจากดินแดนตะวันตก มีความสามารถในการยิงปืนแมกนั่มพลังเวท ซึ่งกระสุนเวทของเขานั้นไม่เคยพลาดเป้าเลย กำลังตกหลุมรักวิสก้า และได้แต่งงานกันในช่วงเวลาที่พวกนัตซึหายตัวไปที่เกาะเทนโรว มีลูกสาว 1 คนชื่อ"อาสึกะ" โดยคำว่า"อา"มาจาก"อัลแซค" ส่วนคำว่า"สึกะ"มาจาก"บิสก้า" ชอบพาลูกสาวตัวเองมาไว้ที่กิลด์บ่อยครั้ง(ในช่วง7ปีที่ผ่านไป อัลแซคเปลี่ยนทรงผมใหม่)
บิสก้า คอร์เนล(มูแลง)
เป็นจอทเวทสาวจากดินแดนตะวันตกเหมือนกับอัลแซค มีความสามารถในการใช้ปืนพลังเวทเหมือนกับอัลแซค แต่ต่างกันที่บิสก้าชอบใช้ปืนยาวสามารถสับเปลี่ยนปืนจากมิติไหนก็ได้ แอบชอบอัลแซค และได้แต่งงานกันในช่วงที่พวกนัตซึหายตัวไป(ในช่วง7ปีที่ผ่านไป บิสก้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก)
วาคาบะ มิเนะ
จอมเวทประสบการณ์สูง สามารถแปลงควันให้กลายเป็นรูปร่างต่างๆ เป็นเพื่อนร่วมวงเหล้ากับมาคาโอ กำลังตกหลุมรักมิร่าเจน ทั้งๆ ที่ตัวเองมีภรรยาอยู่แล้ว (ในช่วง7ปีที่ผ่านไป เปลี่ยนทรงผมกับการแต่งกายใหม่ และเป็นที่ปรึกษามาสเตอร์มาคาโอด้วย)
วอเรน ลัคโก้
เป็นจอมเวทโทรจิต หรือ เทเลพาธี สามารถอ่านจิตใจของคู่ต่อสู้ในระหว่างการต่อสู้ได้ จัดเป็นคนหนึ่งที่มีอิทธิพลในกิลด์ เขาเป็นคนกลัวความสูงมาก มักจะไม่ค่อยอยู่ในกิลด์ เนื่องจากชอบรับงาน 2 งานไปทำทุกครั้งที่ออกเดินทาง(ในช่วง7ปีที่ผ่านไป วอเรนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก นอกจากสไตล์ทรงผมกับการแต่งกาย)
แม็กซ์ อาโลเซ่
จอมเวทผู้ใช้ทราย เวทของเขาเรียกว่า Sandstorm เป็นคนช่างจ้อสุดๆ(พูดน้อยลงในช่วง7ปีที่หายไปและกลับมาพูดมากเหมือนเดิม) ปัจจุบันเป็นคนขายของประจำในบูธขายของที่ระลึกประจำกิลด์แฟรี่เทล
รากิ โอริเอตต้า
จอมเวทสาวแว่นน่ารักผู้นี้ เธอเป็นผู้ใช้เวท วู้ดเมค ซึ่งเป็นการใช้เวทมนตร์เปลี่ยนแปลงรูปร่างไม้ได้ดั่งใจนึก นอกจากนี้ยังชอบสร้างคำพูดแปลกๆทีคนอื่นๆเขาไม่พูดกัน(ในช่วง7ปีที่ผ่านไป รากิกลายเป็นสาววัย 25 ปี เลิกนิสัยการใช้คำพูดแปลกๆไป)
ฟรีด จัสติน
หัวหน้าหน่วยเทพอัสนีบาต(หน่วยอารักขาลัคซัส) เป็นหนุ่มผมยาว ที่ไม่ค่อยจะผูกพันกับใครในแฟรี่เทล น้อยคนนักที่จะรู้เวทมนตร์ประจำตัวของเขา เวทที่ฟรีดใช้คือ "อักขระมืด" เป็นจอมเวทอีกคนในแฟรี่เทลที่หลักแหลมมาก มักจะใช้สมองมากกว่ากำลังในการล้มคู่ต่อสู้ โดยการใช้อักขระมืดสร้างเขตอาคมล่อให้คนติดกับ(เขียนด้วยอักษรโร๊ก) ซึ่งใครที่เหยียบอาคมนี้ จะถูกตั้งกฏขึ้นมา และหากใครฝ่าฝืนกฎก็จะออกจากอาคมไม่ได้ โดยจะมีผลเฉพาะจอมเวทเท่านั้น รวมทั้งเขียนอักขระมืดใส่คู่ต่อสู้เพื่อให้ผลคำสาปในแบบต่างๆ แม้กระทั่งความตาย และจากแบตเทิ่ล ออฟ แฟรี่เทล ฟรีดได้มิร่าเจนช่วยเตือนสติ ทำให้เขากลับตัวกลับใจในที่สุด
เอเวอร์กรีน
จอมเวทสาวผู้มีเวทมนตร์ สโตนอายส์ ซึ่งเป็นเวทมนตร์คำสาปทางสายตา ทำให้คนที่เธอสบตาด้วยกลายเป็นหิน จึงทำให้เธอต้องสวมแว่นตาเพื่อสะกดพลังเวทเอาไว้ แต่จะไม่มีผลกับผู้ที่ใส่แว่น และเป็นสมาชิกคนนึงของหน่วยเทพอัสนีบาต นอกจากเวทดวงตาแล้ว เวทมนตร์หลักที่ใช้สู้คือ
"Gremlin" เป็นเวทกระสุนแสงแห่งภูตที่ยิงออกมาเป็นละอองห่าฝน พักหลังเหมือนเธอจะชอบเอลฟ์แมน
บิ๊กซ์โลว์
จอมเวทชาย หนึ่งในสมาชิกหน่วยเทพอัสนีบาตอีกคน มีรูปร่างสูงใหญ่ ชอบสวมชุดปกปิดตัวเองหลายชั้น มีเวทมนตร์ประจำตัวคือ เวทชักใยสามารถเอาวิญญาณมาสิงในตุ๊กตาแล้วใช้เป็นอาวุธต่อสู้ได้ นอกจากนี้ยังมีเวทดวงตาคือ "Figure Eyes" หากใครสบตา จะกลายเป็นตุ๊กตา แล้วถูกเชิดเป็นข้ารับใช้ทันที

จูเบีย ล็อกซาร์ (Juvia Loxar)
(อายุ 17 ปี) จอมเวทวารี อดีตหนึ่งในสมาชิกเอเลเมนท์โฟร์ของแฟนธ่อมลอร์ด เธอสนใจกิลด์แฟรี่เทลเพราะหลงรักเกรย์ ระหว่างที่เธอได้เห็นสีหน้าของแต่ละคนในกิลด์ที่ดูสนุกสนานตลอดเวลา เธอเลยตัดสินใจเข้าร่วมกิลด์ เธอไม่เพียงแค่ใช้เวทมนตร์สายวารีได้ทุกชนิด แต่ยังสามารถแปลงตัวเองเป็นน้ำได้ด้วย ในอดีตเธอเป็นผู้หญิงที่มาพร้อมสายฝน จนกลายเป็นปมด้อยที่ทำให้เสียเพื่อนและถูกกลั่นแกล้งสารพัด ซึ่งเหตุที่เข้ากลุ่มเอเลเมนท์โฟร์ในช่วงนั้นก็เพียงเพราะต้องการคนยอมรับในตัวเธอ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงที่มาพร้อมสายฝนอีกแล้ว เธอเปลี่ยนทั้งทรงผม และเสื้อผ้าใหม่ๆ เพราะตั้งใจจะกลมกลืนกับกิลด์แฟรี่เทลให้ได้ไวๆ แต่ที่จริงคนรอบข้างยังคงกลัวจูเบียอยู่ มองลูซี่เป็นคู่แข่งเพราะเกรย์สนใจลูซี่(เข้ากิลด์อย่างเป็นทางการในตอนที่ 103 HOME)
- คำว่า "จูเบีย" อาจจะมาจาก "ยูเบีย"(Lluvia) เป็นภาษาสเปน แปลว่า "ฝนตก"
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น